เมนู

ปฐมปาราชิกนี้ อันพระมหาเถระทั้งหลายนำมาด้วยสืบลำดับกันอันใด,
บัดนี้ เพื่อแสดงกิริยาที่สืบลำดับกันอันนั้น พระมหาเถระทั้งหลายครั้งโบราณ
จึงตั้งคาถาไว้โดยนัยมีคำว่า อุปาลิ ทาสโก เจว เป็นอาทิ. ในคาถา
เหล่านั้น คำใดอันข้าพเจ้าพึงกล่าว, คำนั้น ข้าพเจ้าได้กล่าวแล้ว ในนิทาน
วัณณนานั่นแล.
แม้ในปุจฉาวิสัชนาทั้งหลาย มีทุติยปาราชิกเป็นต้น พึงทราบวินิจฉัย
โดยนัยนี้ ฉะนี้แล.
ปัญญัตติวารวัณณนา ในมหาวิภังค์ จบ

[ว่าด้วยวารต่าง ๆ]


ถัดจากนี้ไป วาร 7 เหล่านี้ คือ กตาปัตติวาร มีประเภทเป็นต้นว่า
ภิกษุเสพเมถุนธรรมต้องอาบัติเท่าไร ? วิปัตติวาร มีประเภทเป็นต้นว่า อาบัติ
ของภิกษุผู้เสพเมถุนธรรม ย่อมจัดเป็นวิบัติเท่าไร แห่งวิบัติ 4 อย่าง ?
สังคหวาร มีประเภทเป็นต้นว่า อาบัติของภิกษุผู้เสพเมถุนธรรม ท่าน
สงเคราะห์ด้วยกองอาบัติเท่าไร แห่งกองอาบัติ 7 ? สมุฏฐานวาร มีประเภท
เป็นต้นว่า อาบัติของภิกษุผู้เสพเมถุนธรรม ย่อมเกิดขึ้น ด้วยสมุฏฐานเท่าไร
แห่งสมุฏฐานอาบัติ 6 ? อธิกรณวาร มีประเภทเป็นต้นว่า อาบัติของภิกษุผู้
เสพเมถุนธรรม จัดเป็นอธิกรณ์ไหน แห่งอธิกรณ์ 4 ? สมถวาร มีประเภท
เป็นต้นว่า อาบัติของภิกษุผู้เสพเมถุนธรรม ย่อมระงับด้วยสมถะเท่าไร แห่ง
สมถะ 7 ? และสมุจจยวารอันเป็นลำดับแห่งสมถวารนั้น มีเนื้อความตื้นทั้งนั้น.
ถัดจากนั้นไปอีก 8 วาร ท่านกล่าวไว้อย่างนี้ คือ ปัญญัตติวาร 1
เนื่องด้วยปัจจัยอีก โดยนัยเป็นต้นว่า เพราะปัจจัยคือการเสพเมถุนธรรม

ปาราชิกทรงบัญญัติที่ไหน ณ ดังนี้, 7 วาร มีกตาปัตติวารเป็นอาทิ คล้ายวาร
ก่อน ๆ เนื่องด้วยปัจจัยนั้นเหมือนกัน. แม้วารทั้ง 8 นั้น ก็มีเนื้อความตื้น
ทั้งนั้น.
วาร 16 ในมหาวิภังค์ คือ ที่มีก่อน 8 เหล่านี้อีก 8 ข้าพเจ้าแสดง
แล้ว ด้วยประการฉะนี้.
ถัดจากวารนั้นไป 16 วาร มาแล้วแม้ในภิกขุนีวิภังค์ โดยนัยนั้น
เหมือนกัน เพราะฉะนั้น พึงทราบวาร 32 ในอุภโตวิภังค์เหล่านี้โดยนัยบาลี
นั่นแล ด้วยประการฉะนี้.
จริงอยู่ ใน 32 วารนี้ คำไร ๆ ที่นับว่ามิได้วินิจฉัยแล้วในหนหลัง
ย่อมไม่มี.
โสฬสมหาวาร วัณณนา
ในมหาวิภังค์และภิกขุนีวิภังค์ จบ

ย่อหัวข้อสมุฏฐาน


[826] สังขารทั้งปวงที่ปัจจัยปรุง
แต่ง ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา และ
บัญญัติ คือ พระนิพพาน ท่านวินิจฉัยว่า
เป็นอนัตตา เมื่อดวงจันทร์ คือ พระพุทธเจ้า
ยังไม่เกิดขึ้น เมื่อดวงอาทิตย์ คือ พระ-
พุทธเจ้า ยังไม่อุทัยขึ้นมา เพียงแต่ชื่อของ
สกาคธรรมเหล่านั้น ก็ยังไม่มีใครรู้จัก พระ
มหาวีรเจ้าทั้งหลาย เป็นผู้มีพระจักษุ ทรงทำ
ทุกรกิริยามีอย่างต่าง ๆ ทรงบำเพ็ญบารมี
แล้วเสด็จอุบัติในโลกเป็นไปกับพรหมโลก
พระองค์ทรงแสดงพระสัทธรรม อันดับเสีย
ซึ่งทุกข์ นำมาซึ่งความสุข พระอังคีรส
ศากยมุนี ผู้อนุเคราะห์แก่ประชาทุกถ้วน
หน้า อุดมกว่าสรรพสัตว์ ดุจราชสีห์ ทรง
แสดงพระไตรปิฎก คือ พระวินัย 1 พระ-
สุตตันตะ 1 พระอภิธรรม 1 ซึ่งมีคุณมาก
อย่างนี้ พระสัทธรรมจะเป็นไปได้ ผิว่า
พระวินัย คือ อุภโตวิภังค์ ขันธกะ และ
มาติกา ที่ร้อยกรองด้วยคัมภีร์บริวาร เหมือน